การตลาดต้องมาพร้อมกับเป้าหมาย หากนักการตลาดไม่มีเป้าหมายคุณจะไม่รู้เลยว่างานของคุณนั้นคุ้มค่าหรือไม่ เหมือนกับการเดินทางคุณต้องมีการวางแผนเพื่อไปถึงจุดหมายได้ทันเวลา ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะทำอะไรอย่างไร้จุดหมาย
การวางเป้าหมายอย่างชาญฉลาดมีความสำคัญต่อแผนการตลาดที่ดี หากทีมไม่มีเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน การตลาดจะไม่มีทิศทางทำให้แบรนด์ไม่สามารถจับทางของลูกค้าได้ นั่นจึงทำให้นักการตลาดหันมาใช้ SMART เพื่อประเมินความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ต่าง ๆ หรือปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ
คำว่า ‘SMART’ เป็นตัวย่อที่ย่อมากจากคำภาษาอังกฤษทั้งหมด 5 คำด้วยกัน ได้แก่ :
SMART เป็นตัวย่อที่ย่อมาจาก:
- Specific : เป้าหมายมีความชัดเจนและเจาะจง หมายถึงข้อมูลเพียงพอที่จะระบุปัญหาหรือดอกาสหรือไม่ และวัตถุประสงค์มีรายละเอียดเพียงพอที่จะทราบปัญหาและโอกาสหรือไม่
- Measurable : สามารถวัดผลได้ ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
- Achievable : เป้าหมายสามารถทำได้จริง หรือมีความเป็นไปได้ว่าจะทำสำเร็จ
- Relevant : สอดคล้องกับความเป็นจริง หรือข้อมูลสามารถนำไปใช้กับปัญหาเฉพาะที่นักการตลาดประสบได้หรือไม่
- Time-bound : ขอบเขตเวลา หรือการกำหนดเวลาให้ชัดเจนว่าจะถึงเป้าหมายเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามการตลาดแบบ SMART เป็นการออกแบบมาเพื่อช่วยนักการตลาดสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนอย่างรอบคอบ และติดตามได้ง่าย
เป้าหมายที่ธุรกิจต้องการ
- เพิ่มยอดขาย หรือเพิ่มการรับรูแบรนด์
- ขยายส่วนแบ่งการตลาด
- หาลูกค้าใหม่ หรือหาตลาดหรือพื้นที่ใหม่ ๆ
- พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ปัจจัยที่นำไปสู่การกำหนดเป้าหมายแบบ SMART
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง ฉะนั้นทีมการตลาดต้องเข้าใจเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของคุณ ซึ่งความเข้าใจนี้หมายถึงการรู้ว่าสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จคืออะไร และจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร โดยเป้าหมายเหล่านี้ต้องอยู่บนหลักแห่งความเป็นจริง
เป้าหมายต้องสามารถวัดผลได้
นักการตลาดต้องตั้งเป้าหมายให้สามารถวัดผลได้ด้วย ซึ่งหมายถึงการทำความเข้าใจในเมตริกและสามารถติดตามผลของเป้าหมายในแต่ละขั้นตอนที่ดำเนินการด้วย เพื่อที่คุณจะได้กำหนดความสำเร็จหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากการวัดความสำเร็จและความผิดพลาดมีความสำคัญ เพราะช่วยให้คุณสามารถติดตามความคืบหน้าและสามารถประเมินได้ว่าตรงไหนที่ต้องได้รับการแก้ไขและตรงไหนที่ทำได้ดี ตรงนี้คุณอาจจะตั้ง KPI ขึ้นมาเพื่อวัดผลการทำงานกับทีม
ดังนั้นเป้าหมายจะต้องมีโครงร่างที่ชัดเจนและแม่นยำที่สุด ไม่ควรมีช่องว่างสำหรับความคลุมเครือหรือภาษาที่เปิดให้ตีความได้หลากหลาย
ทำเป้าหมายให้สำเร็จ
แม้ว่าจะตั้งเป้าหมายให้สูง แต่ต้องแน่ใจว่าเป้าหมายนั้นอยู่ในขอบเขตของสิ่งที่เป็นจริงและนำไปใช้ได้จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าตั้งเป้าหมายที่ง่ายจนไม่ท้าทายหรือจูงใจทีม นอกจากนี้เป้าหมายควรมีความเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ของบริษัทด้วย เพื่อให้ทีมของคุณเข้าใจจุดประสงค์ที่อยู่เบื้องหลักแต่ละเป้าหมายและแคมเปญ
ตั้งเป้าหมายให้ตรงเวลา
การทำการตลาดทุกรูปแบบต้องมีเป้าหมายต้องมีกำหนดเวลา หากไม่มีสิ่งนี้ คุณจะไม่มีทิศทางในการทำงาน และไม่ทราบว่าคุณจะทำอย่างไรที่จะบรรลุเป้าหมาย ซึ่งการกำหนดเวลา เช่น เป้าหมายจะต้องเป็นจริงใช้ได้จริงและสามารถเสร็จได้ทันเวลา