บทความ ความได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์ : D-U-N-S Number เทียบกับหมายเลขระบุตัวตนธุรกิจของไทย
อัปเดตล่าสุด : 12/06/2025

Dnb Thailand

 
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าธุรกิจในประเทศไทย จะมีหมายเลขระบุตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐอยู่แล้ว เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และเลขทะเบียนนิติบุคคล คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ D-U-N-S Number มอบประโยชน์ที่แตกต่างหรือเหนือกว่าหมายเลขเหล่านี้อย่างไร และเหตุใดธุรกิจไทยจึงควรให้ความสำคัญกับหมายเลขนี้เพิ่มเติม
 

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าธุรกิจในประเทศไทย จะมีหมายเลขระบุตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐอยู่แล้ว เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และเลขทะเบียนนิติบุคคล คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ D-U-N-S Number มอบประโยชน์ที่แตกต่างหรือเหนือกว่าหมายเลขเหล่านี้อย่างไร และเหตุใดธุรกิจไทยจึงควรให้ความสำคัญกับหมายเลขนี้เพิ่มเติม

 

บทความนี้จะสำรวจความสำคัญและประโยชน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของหมายเลข D-U-N-S (D-U-N-S Number) สำหรับธุรกิจในประเทศไทย แม้ว่าธุรกิจไทยจะมีหมายเลขระบุตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร และเลขทะเบียนนิติบุคคลอยู่แล้ว บทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างในด้านขอบเขต วัตถุประสงค์ และข้อมูลที่เชื่อมโยงของหมายเลขทั้งสามประเภท โดยเน้นว่า D-U-N-S Number ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ออกโดย Dun & Bradstreet (D&B) ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ อำนวยความสะดวกทางการค้า และเปิดโอกาสทางธุรกิจในเวทีระหว่างประเทศได้อย่างไร ทำไมธุรกิจไทยจึงควรให้ความสำคัญและมีหมายเลข D-U-N-S ควบคู่ไปกับหมายเลขระบุตัวตนภายในประเทศ

 

ทำความเข้าใจหมายเลขระบุตัวตนแต่ละประเภท

เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (Tax ID) : เป็นหมายเลข 13 หลักที่กรมสรรพากรออกให้แก่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและจัดเก็บภาษีภายในประเทศไทย วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอากร

เลขทะเบียนนิติบุคคล (Juristic Person Registration Number)  : เป็นหมายเลข 13 หลัก (สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนหลังปี พ.ศ. 2551 จะใช้เลขเดียวกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร) ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ ออกให้แก่นิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายไทย เพื่อยืนยันสถานะทางกฎหมายและการมีอยู่ของนิติบุคคลนั้น ๆ ภายในประเทศ 

หมายเลข D-U-N-S (D-U-N-S Number) : เป็นหมายเลขเฉพาะตัว 9 หลัก ที่ออกโดย Dun & Bradstreet (D&B) ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลธุรกิจระดับโลก หมายเลขนี้ใช้ระบุตัวตนทางธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ในระดับสากล และเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลธุรกิจทั่วโลกที่ครอบคลุมข้อมูลเชิงลึกหลากหลายมิติ 

 

ความแตกต่างที่สำคัญของเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร, เลขทะเบียนนิติบุคคล และหมายเลข D-U-N-S (D-U-N-S Number)

แม้ว่าหมายเลขทั้งสามประเภทจะใช้ระบุตัวตนทางธุรกิจเหมือนกันก็จริง แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญในด้านขอบเขต วัตถุประสงค์ และข้อมูลที่เชื่อมโยง

 

ขอบเขตและการยอมรับ : ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือขอบเขตการใช้งาน D-U-N-S Number มีขอบเขตและการยอมรับในระดับสากล ในขณะที่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเลขทะเบียนนิติบุคคลมีขอบเขตจำกัดอยู่เพียง ภายในประเทศไทย  คู่ค้าหรือหน่วยงานในต่างประเทศอาจไม่เข้าใจหรือไม่สามารถตรวจสอบหมายเลขของไทยได้อย่างสะดวก แต่ D-U-N-S Number เป็นมาตรฐานที่เข้าใจและใช้กันทั่วโลก

 

วัตถุประสงค์และข้อมูลที่เชื่อมโยง : วัตถุประสงค์หลักของหมายเลขไทยคือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับภายในประเทศ (ภาษีและการจดทะเบียน) ในทางตรงกันข้าม วัตถุประสงค์หลักของ D-U-N-S Number คือเพื่อการระบุตัวตนทางธุรกิจในเชิงพาณิชย์ระดับสากล การประเมินความน่าเชื่อถือ การบริหารความเสี่ยง และการอำนวยความสะดวกทางการค้า  ที่สำคัญ D-U-N-S Number เชื่อมโยงกับ D&B Data Cloud ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึก เช่น ความเชื่อมโยงของบริษัทในเครือ, ประวัติการชำระเงิน, คะแนนความเสี่ยง และข้อมูลเครดิตทางธุรกิจ เป็นต้น

หน่วยงานผู้ออกหมายเลข : หมายเลขไทยออกโดยหน่วยงานภาครัฐ (กรมสรรพากร, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) ในขณะที่ D-U-N-S Number ออกโดย Dun & Bradstreet ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูลธุรกิจ

 

การมีอยู่ของ D-U-N-S Number ชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดของระบบการระบุตัวตนระดับชาติในเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ ระบบเหล่านี้อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการระบุตัวตนทางธุรกิจที่เป็นมาตรฐานและตรวจสอบได้ในระดับสากลได้อย่างสมบูรณ์ D-U-N-S Number เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยทำหน้าที่เป็นตัวระบุตัวตนสากลที่อำนวยความสะดวกให้กับการค้าข้ามพรมแดน

 

การเปรียบเทียบนี้ยังตอกย้ำว่าตัวตนทางธุรกิจมีหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย ด้านการคลัง และด้านการพาณิชย์ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเลขทะเบียนนิติบุคคลตอบสนองมิติทางกฎหมายและการคลังภายในประเทศได้ ในขณะที่ D-U-N-S Number มุ่งเน้นไปที่มิติทางพาณิชย์ในระดับสากล ซึ่งรวมถึงความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยง ความสัมพันธ์ทางการค้า และการมองเห็นในตลาดโลก นี่จึงไม่ใช่แค่หมายเลขทะเบียนอีกประเภทหนึ่ง แต่เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกและประเมินความสามารถในการดำเนินธุรกิจในระดับโลก

 

บทบาทที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า D-U-N-S Number ไม่ได้มาแทนที่หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีหรือเลขทะเบียนนิติบุคคลของไทย แต่ทำหน้าที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ธุรกิจไทยยังคงจำเป็นต้องใช้หมายเลขที่ออกโดยภาครัฐ เพื่อการดำเนินงานและการปฏิบัติตามกฎหมายภายในประเทศต่อไปได้อย่างสะดวกและเป็นที่ยอมรับ ในขณะเดียวกัน ก็ควรมี D-U-N-S Number เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร สร้างความน่าเชื่อถือ และดำเนินธุรกรรมในเวทีระหว่างประเทศ การมีทั้งสองระบบช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นทั้งในและต่างประเทศ (แม้ว่าเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจะไม่ใช่ข้อบังคับในการขอ D-U-N-S แต่ก็แนะนำให้มีเพื่อช่วยยืนยันตัวตนธุรกิจ)

 

ตารางเปรียบเทียบ D-U-N-S Number กับ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และ เลขทะเบียนนิติบุคคลของไทย
 

 

 

แม้ว่า D-U-N-S Number จะออกโดยหน่วยงานเอกชน (D&B) แต่การที่หน่วยงานภาครัฐ (เช่น US FDA ), องค์กรระหว่างประเทศ (เช่น UN, EU ), และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ (เช่น Apple, Google ) กำหนดให้ใช้หรือยอมรับอย่างกว้างขวาง ทำให้ D-U-N-S Number มีสถานะเสมือนเป็นมาตรฐานอย่างเป็นทางการ ในบริบททางธุรกิจระหว่างประเทศจำนวนมาก การบูรณาการเข้ากับกระบวนการที่เป็นทางการเหล่านี้ยกระดับ D-U-N-S Number ให้เป็นมากกว่าบริการของเอกชน แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการมีส่วนร่วมในธุรกิจระดับโลก

 

 

Discover       Connect
Perspectives Products D-U-N-S Number Resources Contact Us
Solutions About Us Careers

© Dun & Bradstreet, Inc. 2000 - 2018. All rights reserved.   Terms of Use    Cookies Policy   Privacy Policy    Privacy Notice    Data Source Attribution   DPS Acknowledgement by ETDA